Ascending Channel Chart Pattern
เป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อว่ารูปแบบ Bullish Channel ขณะที่ราคาขยับขึ้น มันประกอบด้วยเส้นแนวโน้มสองเส้นที่ขนานกันซึ่งมีจุดhigher highs และ higher lows ทำให้เกิดช่องBullish Channelหรือ ช่องupside channel ราคาถูกจำกัดระหว่างเส้นแนวโน้มสองเส้น
ประกอบด้วยดังต่อไปนี้
1.Ascending Upper Trendline เรียกอีกอย่างว่า channel line หรือ secondary trendline(เส้นแนวโน้มรอง) สิ่งนี้วาดคู่ขนานกับเทรนด์ไลน์หลัก ควรมีอย่างน้อยสองจุดติดต่อกันที่เกิดในลักษณะ higher highs จุดที่มีมากบงบอกถึงสัญญาณที่แข็งแกร่งในpattern เส้นแนวโน้มทำหน้าที่เป็นแนวต้านด้วย
2.Ascending Lower Trendline หรือที่เรียกว่า main trendline(เส้นแนวโน้มหลัก) หรือ primary trendline (เทรนด์ไลน์หลัก) มันถูกเรียกเช่นนั้นเพราะมันเป็นตัวกำหนดแนวโน้ม มันทำหน้าที่เป็นแนวรับในpattern ควรมีlower lows อย่างน้อย2จุดติดต่อกันหรือมากกว่านั้นก็จะแม่นยำมากยิ่งขึ้น
Breakout มันสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งupside(แนวขึ้น) หรือ downside(แนวลง) หากเกิดการbreakoutในทิศทางขาลงแสดงว่าเทรนขาขึ้นได้จบลงแล้ว หมีจะครอบงำกระทิงและแสดงสัญญาณการขาย อย่างไรก็ตามหากมีการbreakoutในทิศทางกลับกันก็จะบ่งบอกถึงกิจกรรมการซื้อโดยผู้ซื้อและบ่งชี้สัญญาณซื้อ
Volume เช่นเดียวกับรูปแบบแผนภูมิอื่น ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยยืนยันpattern เมื่อเกิด ascending Channel pattern นี้ขึ้นจะเกิดVolumeที่มากขึ้นตามไปด้วย และจะลดลงหลังจากราคาbreakout
Price Target ใครๆก็สามารถวางเป้าหมายราคาหลังจากการBreakout ถึงจะเป็นChanelที่มีคุณภาพได้แต่อย่างไรก็ตามควรมีตัวชี้วัดอื่นช่วยพิจารณาร่วมด้วยเช่น MACD ,RSI ฯลฯ
Duration(ระยะเวลา) การสร้างChanelPattern ใช้เวลาตั้งแต่สองสามสัปดาห์ถึงหลายเดือนหรือมากกว่านั้น ระยะเวลาที่มากกว่าจะถือว่ามีความน่าเชื่อถือมากกว่าระยะเวลาอันสั้น
ที่มา: http://tutorials.topstockresearch.com/ChartPatterns/Channel/AscendingChannel/TutorialOnAscendingChannelPatterns.html
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น